Search

ทุกวินาทีมีค่า!เปิดมูลค่าในสนามของทีมชาติไทยศึกซูซูกิคัพ - สยามกีฬา

ทุกวินาทีมีค่า!เปิดมูลค่าในสนามของทีมชาติไทยศึกซูซูกิคัพ

นักเตะทีมชาติไทย มีคิวลงทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รายการ เอเอฟเอฟ แชมป์เปี้ยนส์ชิพ 2020 รอบรองชนะเลิศ โดยจะลงสนาม 2เกม พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในวันที่ 23,26 ธ.ค.64 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ทำการแข่งขันเวลา 19.30 น. ทั้งสองนัด (ตามเวลาประเทศไทย) ก่อนเกมรอรองชนะเลิศที่จะพบกับเวียดนามได้มีการประกาศมอบรางวัลเพิ่มเติมอีก 10 ล้านหากทีมชาติไทยล้มเวียดนามผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้

    ทำให้ยอดเงินอัดฉีดสะสมตอนนี้อยู่ที่ 30 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ “มาดามแป้ง”นวลพรรณ  ล่ำซำ ผจก.ทีมชาติไทย ประกาศอัดฉีด 20 ล้านบาทหากทีมชาติไทย คว้าแชมป์ เมื่อรวมกับเงินก้อนล่าสุดที่ พล.ต.อ.สมยศ  พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย  มอบให้อีก 10 ล้านบาท  ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้มีประกาศว่าหากทีมชาติไทยคว้าแชมป์รายการนี้เงินรางวัลทัวร์นาเมนต์จำนวน 10 ล้านบาท จะมอบทั้งหมดให้นักเตะและทีมงานไปแบ่งกันทันที ทำให้ยอดรวมทั้งหมดหากทีมชาติไทยก้าวไปคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการนี้ได้จะอยู่ที่ 40 ล้านบาท 

    หากคิดคร่าวๆเรื่องของเงินอัดฉีดและเงินรางวัลรวมทั้งหมด 40 ล้านบาท นับเฉพาะนักกีฬา 30 คนเมื่อคำนวณออกมาแล้ว จะมีโอกาสรับเงินคนละ 1 ล้านบาทเศษทันที ส่วนรายละเอียดปีกย่อยเมื่อนำเม็ดเงินตรงนี้มาคำนวณต่อเกมคิดออกมาเป็นมูลค่าหากทีมชาติไทยคว้าแชมป์จะต้องลงเล่น 8 เกม 720 นาที 43,200 วินาที  (รอบแรก 4 เกม,รอบรองชนะเลิศ 2 เกม และ รอบชิงชนะเลิศ 2 เกม) 

    สถานการณ์ ณ เวลานี้ไทยลงเล่นไปแล้ว 4 เกมเดินทางมาถึงครึ่งทางของการไล่ล่าความสำเร็จ เหลืออีก 4 เกม ในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ นี่คือตัวเลขเงินอัดฉีดที่ถูกคำนวณออกมาแบบละเอียดในการลงทำการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ชิงเจ้าอาเซียน 

    มูลค่าในสนามของทีมชาติไทย

    ทัวร์นาเมนต์(8นัด)  40,000,000  บาท
    แมตซ์ละ  5,000,000  บาท
    นาทีละ 55,555.55 บาท
    วินาทีละ 926 บาท

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
เพิ่มเพื่อน

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( ทุกวินาทีมีค่า!เปิดมูลค่าในสนามของทีมชาติไทยศึกซูซูกิคัพ - สยามกีฬา )
https://ift.tt/3FlzeL9
กีฬา

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ทุกวินาทีมีค่า!เปิดมูลค่าในสนามของทีมชาติไทยศึกซูซูกิคัพ - สยามกีฬา"

Post a Comment

Powered by Blogger.