การทำได้เพียงเปิดรัง แอนฟิลด์ เสมอกับ อาร์เซน่อล 0-0 ในเกม คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล หลายคนจะคิดถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ 2 แนวรุกคนดังของทีมที่ตอนนี้กำลังไปเล่นศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ให้กับ อียิปต์ และ เซเนกัล ตามลำดับ
ซาลาห์ กับ มาเน่ สามารถทำประตูให้กับทีมได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะ ซาลาห์ ที่ฤดูกาลนี้ซัดไปแล้ว 23 ประตูจากการลงเล่น 26 นัดในทุกรายการ จนทำให้ทุกวันนี้ ซาลาห์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของโลกในยุคปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม นอกจาก ซาลาห์ กับ มาเน่ แล้วนั้น มันยังมีอีก 1 คนที่ถือว่ามีความสำคัญต่อ ลิเวอร์พูล อย่างมาก และการขาดเขาไปก็ส่งผลกระทบกับผลงานของทีมแบบร้ายแรงชนิดที่ว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ว่าได้ ซึ่งคนที่ว่าก็คือ ติอาโก้ อัลกันตาร่า
ฤดูกาลนี้ ติอาโก้ ได้ลงเล่นในฐานะตัวจริงไปทั้งหมด 9 นัดในทุกรายการ และในจำนวนนั้นทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด อย่างเช่นเกมลีกนัดที่ ลิเวอร์พูล ไล่ถล่ม อาร์เซน่อล 4-0 เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นต้น
ในทางตรงกันข้าม นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาที่ ลิเวอร์พูล ต้องลงเล่นโดยไร้เงาของ ติอาโก้ คอยช่วยคุมแดนกลางนั้น ทีมของ คล็อปป์ สามารถเก็บชันชนะได้แค่หนเดียวจากทั้งหมด 6 เกมในทุกรายการ โดยที่เหลือแบ่งเป็นการเสมอ 4 ครั้งกับแพ้ 1 หน ซึ่งเกมที่แพ้ก็คือเกมลีกนัดพ่าย เลสเตอร์ 0-1 นั่นเอง
มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักที่ผลงานของ ลิเวอร์พูล ระหว่างมีกับไม่มี ติอาโก้ จะต่างกันมากขนาดนั้น เพราะหากนับจนถึงตอนนี้ดาวเตะดีกรีทีมชาติสเปนก็ถือเป็นกองกลางที่มีเปอร์เซ็นต์ผ่านบอลในลีกเข้าเป้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทีม หากนับเฉพาะคนที่ลงเล่นในลีกอย่างต่ำ 10 นัด ที่จำนวน 86.3% มีเพียง ฟาบินโญ่ ที่ทำได้ดีกว่าเขา หลังจากอีกฝ่ายทำไป 88.3%
นอกจากนี้ ติอาโก้ ยังถือเป็นกองกลางที่มีค่าเฉลี่ยการผ่านบอลระยะไกลเข้าเป้าสูงที่สุดในบรรดากองกลาง ลิเวอร์พูล ทุกคนด้วย หลังทำไป 3.5 ครั้งต่อเกม และทั้งหมดนี้เขาก็ทำได้ในฐานะที่เป็นมิดฟิลด์ที่มีจังหวะผ่านบอลโดยรวมเฉลี่ยสูงที่สุดของทีม ที่จำนวน 59.5 ครั้งต่อนัด พูดอีกแบบก็คือถึงแม้ ติอาโก้ จะผ่านบอลมากกว่ากองกลางคนอื่นในทีม แต่เขาก็ยังมีค่าเฉลี่ยดีกว่าคนเหล่านั้นได้ด้วยซ้ำ
ในด้านเกมรับเองนั้น ติอาโก้ ก็มีส่วนช่วยทีมได้อย่างมากเช่นกัน เพราะเขาเป็นคนที่มีค่าเฉลี่ยการสกัดโดนบอลสูงเป็นอันดับ 3 ของทีมร่วมกับ ฟาบินโญ่ และ เจมส์ มิลเนอร์ ที่จำนวน 1.6 ครั้งต่อเกม มีเพียง นาบี เกอิต้า กับ คอสตาส ซิมิกาส ที่ทำได้ดีกว่า ติอาโก้ และผองเพื่อน
ติอาโก้ ไม่ได้ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล อีกเลย นับตั้งแต่วันที่ต้นสังกัดของเขาชนะ นิวคาสเซิ่ล ในเกมลีก เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา จากการที่ตอนแรกเขาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และในเวลาต่อมาก็ยังได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพกอีก
จนถึงตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ติอาโก้ ยังต้องพักรักษาตัวอีกนานเท่าไหร่ แน่นอนว่าฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม แต่อีกมุมหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านักเตะบางคนก็มีความสำคัญกับทีมมากเป็นพิเศษเหมือนกัน และตอนนี้ก็ต้องรอดูกันว่า ลิเวอร์พูล จะพลิกสถานการณ์ช่วงที่ไร้เงา ติอาโก้ ได้ดีแค่ไหน
- เด็กเกร็ดบอล -
Getty Images
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]
https://ift.tt/3qzf5fi
กีฬา
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ติอาโก้ อีกหนึ่งฟันเฟืองที่สำคัญไม่แพ้ใครของ ลิเวอร์พูล - สยามกีฬา"
Post a Comment