นายเชาว์นิธิศวร์ อินทรพิชัย อดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ ในฐานะสมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทย จัดงานวันป้องกันจมน้ำโลก กระแสตอบรับดีเยี่ยม พร้อมเดินหน้าผลักดันกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทยต่อเนื่อง
สมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทย ร่วมกับสมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำ และการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) จัดงานวันป้องกันจมน้ำโลก ที่สระว่ายน้ำการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่แก่บุคคลทั่วไปให้ได้เรียนรู้หลักการช่วยคนจมน้ำเบื้องต้นและเป็นการเผยแพร่กีฬาไลฟ์เซฟวิ่งให้แก่บุคคลทั่วไปได้เรียนรู้ และทำความรู้จัก โดยมีนายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด และมีผู้เข้ารับการอบรม จำนวนมากกว่า 100 คน ซึ่งไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายๆใดทั้งสิ้น การอบรมแบ่งเป็นภาคทฤษฎีในช่วงเช้าและภาคปฏิบัติในช่วงบ่าย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบรรดาผู้เข้าอบรมที่มีทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ทุกเพศทุกวัยเป็นอย่างดี บรรยากาศสนุกสนานมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ โดยเฉพาะในช่วงภาคปฏิบัติได้มีการให้ผู้เข้ารับการอบรมลงสระว่ายน้ำจริง และได้ทดลองปฏิบัติการช่วยเหลือผู้จมน้ำที่เป็นหุ่นจำลอง,เรียนรู้วิธีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างถูกต้อง,เรียนรู้หลักการเอาชีวิตรอดเมื่อประสบภัยหรือเมื่อพบผู้ประสบภัย,ขั้นตอนการเข้าให้การช่วยเหลือที่ถูกวิธี ทั้งนี้ทุกขั้นตอนได้รับการดูแลจากหน่วยงานมืออาชีพเพื่อให้การเรียนรู้ดำเนินไปได้ด้วยดี
นายเชาว์นิธิศวร์ อินทรพิชัย อดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ ในฐานะนายกสมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทย บอกว่า “สมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทย เพิ่งจะก่อตั้งในปี 2563 แม้จะยังเป็นสมาคมที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ก็ได้พยายามจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ สืบเนื่องจากองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ทุกวันที่ 25 กรกฎาคมของทุกปีเป็นวันป้องกันการจมน้ำโลก จึงตระหนักเห็นว่าเรื่องการให้ความรู้กับประชาชนให้รู้หลักการช่วยคนจมน้ำเบื้องต้นและเป็นการเผยแพร่กีฬาไลฟ์เซฟวิ่งให้แก่บุคคลทั่วไปได้เรียนรู้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ซึ่งครั้งแรกของการจัดกิจกรรมนับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกกรรมทุกเพศทุกวัยตรงกับวัตถุประสงค์ของสมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทยเพราะเราต้องให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยทุกช่วงอายุได้เรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดจากอุบัติเหตุทางน้ำและอีกทางหนึ่งเราก็ต้องการให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในหลักการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย”
” LIFE SAVING ยังได้พัฒนารูปแบบให้มีการแข่งขันนับเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่มีกติกาการแข่งขันที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละทัวร์นาเมนต์ เป็นกีฬาที่น่าสนใจมากๆมีจัดแข่งขันใน World Games มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบครั้งล่าสุดเมื่อปี 2013 จากเดิมที่เคยแข่งขันกันที่ชายหาดก็เปลี่ยนมาเป็นแข่งขันในสระว่ายน้ำ โดยแบ่งประเภทเป็นการว่ายช่วยหุ่นจำลองโดยใช้ฟินส์และไม่ใช้ฟินส์, การว่ายข้ามสิ่งกีดขวาง และการว่ายช่วยหุ่นจำลองแบบผลัด ทั้งชาย-หญิงและผสม ซึ่งปัจจุบันสมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทยก็มีเป้าหมายอยากจะสร้างทีมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากยังเป็นสมาคมกีฬาน้องใหม่ก็ต้องเริ่มก้าวแรกให้มั่นคงก่อน หลังจากนี้สมาคมฯเตรียมวางแผนจะจัดการอบรมเผยแพร่กีฬาไลฟ์เซฟวิ่งให้มากขึ้น เพราะเป้าหมายแรกของเราคือต้องการช่วยเหลือสังคมสร้างการรับรู้ถึงความสำคัญของการเอาชีวิตรอดในยามประสบภัยและการช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นในยามประสบภัย ซึ่งหลังจบกิจกรรมงานวันป้องกันจมน้ำโลกครั้งแรกทำให้เราได้ทราบว่ายังมีกลุ่มคนที่ยังให้ความสนใจในเรื่องนี้อยู่มากโดยเฉพาะบรรดาเยาวชน เพียงแต่พวกเขาไม่มีช่องทางการเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ที่ถูกต้อง ซึ่งสมาคมฯก็พร้อมแล้วที่จะเป็นบันไดก้าวแรกให้กับทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้หลักการต่างๆทั้งในภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และหากใครที่มีใจรักและพร้อมจะทุ่มเทฝึกฝนทักษะให้กับกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งอย่างจริงจังก็สามารถต่อยอดไปสู่การเป็นนักกีฬาได้อีกด้วย ”
สำหรับสมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งได้รับการรับรองโดยสมาพันธ์เวิลด์เกมส์ นานาชาติ ตั้งแต่ปี 1982 ก่อนจะถูกบรรจุไว้ในมหกรรมกีฬา WORLD GAMES ในรูปแบบการแข่งขันที่เน้นความเร็วในการช่วยเหลือคน คล้ายๆกับการแข่งขันว่ายน้ำ เพียงแต่จะมีอุปกรณ์เป็นหุ่นหรือทุ่นจำลองให้เหมือนกับผู้ประสบภัยจริง ซึ่งนักกีฬาจะต้องทำการช่วยชีวิตผู้จมน้ำให้ปลอดภัยให้ได้เร็วที่สุด โดยในเวิลด์เกมส์จะใช้การจับเวลาเป็นตัวบีบคั้นให้ผู้เข้าแข่งขันต้องเร่งทำความเร็ว อย่างไรก็ตามการที่จะสร้างทีมไลฟ์เซฟวิ่งไทยเข้าร่วมแข่งขันรายการต่างๆก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะการจะทำให้สำเร็จต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก และ นักกีฬาทุกคนต้องผ่านการอบรมการช่วยชีวิตทางน้ำและได้รับใบเซอร์ทิฟิเคทฯก่อนถึงจะลงแข่งขันได้ จึงเป็นงานที่ท้าทายสำหรับสมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทยไม่น้อย แต่หากมีหน่วยงานทั้งภาครัฐบาลและเอกชนให้การสนับสนุนก็จะเป็นเรื่องที่ดีเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างมากเพราะประชาชนทุกคนจะหันมาให้ความสำคัญกับการว่ายน้ำและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำมากขึ้น
ทั้งนี้ข้อมูลที่รัฐบาลเปิดเผยสถิติอุบัติเหตุทางน้ำเอาไว้พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2555 ถึงปี 2564 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำมากถึง 35,915 คน แบ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีมากถึงร้อยละ 20.5 (7,374คน) โดยเด็กช่วงอายุ 5-9 ปีเป็นกลุ่มที่เสียชีวิตมากที่สุดที่ 2,867 คน และช่วงเดือน มี.ค. – พ.ค. เป็นช่วงเวลาที่เสียชีวิตมากที่สุดเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 32.7 ของการจมน้ำเสียชีวิตตลอดทั้งปี หากรัฐบาลไทยให้ความสำคัญและพร้อมที่จะสนับสนุนสมาคมกีฬาไลฟ์เซฟวิ่งไทยให้ได้เผยแพร่หลักสูตรการช่วยชีวิตทางน้ำและผลักดันการสร้างทีมไลฟ์เซฟวิ่งไทย ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำอาจจะลดน้อยลง และ อาชีพไลฟ์การ์ดหรือผู้ช่วยชีวิตจะถูกให้ความสำคัญมากขึ้น ที่สำคัญในอนาคตเราอาจจะมีทีมกีฬา LIFE SAVEING ที่ติดธงไตรรงค์เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเวทีโลกก็ได้
สำหรับผู้ที่สนใจติดตามข่าวสารหรือสมัครร่วมกิจกรรมต่างๆของสมาคม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook : Thai Life Saving Sport Federation
อ่านบทความและอื่น ๆ ( เชาว์นิธิศวร์ พร้อมดันกีฬาไลฟ์เซฟวิ่ง ให้เป็นที่รู้จักในไทย - ข่าวสด )https://ift.tt/RO3CAnz
กีฬา
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เชาว์นิธิศวร์ พร้อมดันกีฬาไลฟ์เซฟวิ่ง ให้เป็นที่รู้จักในไทย - ข่าวสด"
Post a Comment