กัญชากับกีฬา (2) - ไทยรัฐ

เรียงหน้าชนครั้งก่อนได้นำเสนอบทความที่เพจ กองประชาสัมพันธ์ กกท. ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ลงเอาไว้ ในเรื่องของกัญชากับกีฬาตอนแรก

โดยเป็นการแยกให้เห็นชัดเจนว่า มุมหนึ่ง หากครอบครองในปริมาณที่กำหนด ก็ไม่ได้ผิดกฎหมายใหญ่อะไร แต่ในด้านของกีฬาที่ย่อยลงมาถือว่าไม่ถูกต้อง เป็นการโด๊ป ทั้งหมด

ในตอนนี้ก็จะนำเสนอต่อว่า เหตุใดในโลกของกีฬาจึงยังไม่สามารถยอมรับกัญชาได้

เนื้อหาเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย...

สถานการณ์อันน่ากังวลอย่างยิ่งในปัจจุบัน เมื่อพบว่า จำนวนการตรวจพบกัญชาในตัวอย่างปัสสาวะของนักกีฬาไทยที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญซึ่งการตรวจพบสารดังกล่าว ถือเป็นการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ในการใช้สารต้องห้ามหรือวิธีการต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.2555

กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาถูกกำหนดให้ใช้หลัก “ความรับผิดโดยเคร่งครัด” (Strict Liability) ซึ่งเป็นบทสันนิษฐานความรับผิดเด็ดขาด ที่นักกีฬาจะต้องรับผิดชอบ

ทุกอย่างที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อตรวจพบสารต้องห้ามในตัวอย่างปัสสาวะหรือตัวอย่างเลือด ไม่ว่าการนำเข้าสู่ร่างกายนั้นจะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม นักกีฬาจึงต้องรับผิดตามกฎหมาย เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานที่ว่า

นักกีฬาทุกคนต้องแข่งขันด้วยความเท่าเทียมเป็นธรรม ปราศจากการโกง และเพื่อสุขภาพที่ดีของนักกีฬา

สังคมกีฬาโลกเห็นพ้องต้องกันว่า การใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ถือเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีและคุณค่าแห่งกีฬาอย่างแท้จริง จึงต้องมีกลไกทางกฎหมายลักษณะดังกล่าวเพื่อป้องปรามและปกป้องจิตวิญญาณแห่งกีฬา (Spirit of Sport) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาคุณค่าความเป็นมนุษย์ ผ่านการเล่นกีฬา

คณะกรรมการพิจารณาโทษ ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาเพื่อกำหนดโทษกรณีนักกีฬาหรือบุคคลซึ่งสนับสนุนการกีฬา กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ในการใช้สารต้องห้ามหรือวิธีการต้องห้าม ซึ่งอาจกำหนดโทษโดยการตัดสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาให้ผลการแข่งขันเป็นโมฆะ ริบหรือเรียกคืนรางวัล ให้ชดใช้ค่าเสียหายหรือชำระเบี้ยปรับ

รวมไปถึงการระงับสิทธิประโยชน์ทางการกีฬาจากรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย กฎหมายว่าด้วยส่งเสริมกีฬาอาชีพ กฎหมายว่าด้วยกีฬามวย และกฎหมายอื่นในระหว่างการถูกตัดสิทธินักกีฬาและบุคคล ซึ่งสนับสนุนการกีฬา ที่กระทำละเมิดกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา จะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและตัดสินโทษของคณะกรรมการพิจารณาโทษในทุกกรณี หากไม่มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม กัญชานั้นไม่ได้มีเพียงสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocanna binol หรือ THC) เท่านั้น แต่ยังประกอบไปด้วยสารชนิดอื่นๆด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ สารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol หรือ CBD) ซึ่งไม่ถือเป็นยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษและไม่เป็นสารต้องห้ามทางการกีฬาตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาเช่นกัน

แต่ยังมีข้อควรระวังอยู่ เนื่องจาก THC และ CBD มีโครงสร้างทางเคมีที่คล้ายคลึงกันมาก หลายๆ ขั้นตอนของการแยกสกัด CBD จึงมีโอกาสสูงที่จะปนเปื้อนสาร THC ได้นั่นเอง

และนี่คืออีกความเสี่ยงที่นักกีฬาต้องพึงระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสารสกัดน้ำมันกัญชาที่ส่วนประกอบหลักทั้ง THC และ CBD

สิ่งที่นักกีฬาควรยึดถือปฏิบัติกรณีที่จำเป็นต้องใช้กัญชาเพื่อการรักษาทางการแพทย์ นักกีฬา ต้องขออนุญาตใช้สารต้องห้ามเพื่อการรักษา (Therapeutic Use Exemptions หรือ TUE) ก่อนเสมอ.

ฟ้าคำราม

Adblock test (Why?)